สถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา
(หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา : นายบุญชู ธงนำชัยมา)
.............................................................................................................
สถานีวิจัยฉะเชิงเทรามีสำนักงานตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา หมายเลขระวางแผนที่ 5335 I
บริเวณพิกัดละติจูด
13 ลิปดา 40 องศาเหนือ
ลองติจูด101 ลิปดา 88 องศาตะวันออก
วัตถุประสงค์
1. ศึกษาวิจัยทางภาคสนามเกี่ยวกับทรัยากรสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมของสัตว์ป่า
ทั้งในระดับพื้นฐาน
และระดับประยุกต์ ในพื้นที่ป่าตะวันออกโดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนและพื้นที่อนุรักษ์ใกล้เคียง
2. บริการช่วยเหลือ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่นักวิจัยที่ได้รับอนุญาต
ให้เข้าทำการศึกษาวิจัยด้านป่าไม้
และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าตะวันออก
3. บริการความรู้ทางวิชาการ และประสานงานกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสร้างความเข้าใจในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า
4. ดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้และสัตว์ป่า
ลักษณะภูมิประเทศ
ทางฝั่งตะวันออกของพื้นที่ มีลักษณะพื้นที่ค่อนข้างราบผืนใหญ่สลับด้วยเนินเขา
เตี้ยๆ ที่อยู่ระหว่างแนวเทือกเขา
จันทบุรีและแนวทิวเขาอ่างฤาไน โดยทิวเขาอ่างฤาไน
ทอดตัวไปตามทิศเหนือ - ใต้ต่อเนื่องกับทิวเขาชะเมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาจันทบุรี
พื้นที่ส่วนนี้เป็นภูเขาที่มีความลาดชันสลับซับซ้อน ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
มีแนวเขาขนาดเล็กคือ เขาตะกรุบ และเป็นส่วนปลายสุดของแนวเทือกเขาจันทบุรี
พื้นที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง มีค่าต่ำสุดประมาณ 73 เมตร ซึ่ง
กระจายอยู่ทั่วบริเวณเชิงเขา
ติดกับแนวขอบเขตของพื้นที่ และบริเวณที่ราบตอนกลาง
ทางทิศใต้ของพื้นที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาบรรทัดและ
เทือกเขาจันทบุรี จึงประกอบไป
ด้วยภูเขาที่มีความลาดชันสูงต่อเนื่องกัน เช่น เขาอ่างฤาไน เขาใหญ่ เขาละมูน และ
เขาชะอม เป็นต้น และพื้นที่ที่มีค่าความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 810
เมตร อยู่บริเวณยอดเขา
ที่ติดกับเขาสิบห้าชั้น ทางทิศตะวันออกของเขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่าฯ มีความสูงโดยเฉลี่ยของพื้นที่ประมาณ 184 เมตร
พื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ
83 มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางน้อยกว่า 250 เมตร และเป็นผืนป่ารอยต่อ
5 จังหวัด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำสำคัญหลายสายที่เอื้ออำนวยประโยชน์แก่ราษฎรที่
อาศัยอยู่โดยรอบทั้ง 5 จังหวัด
ที่สำคัญเช่น แม่น้ำประแสร์ แม่น้ำจันทบุรี คลองตะเกรา
แควสียัด เป็นต้น
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศแบบเมืองเขตร้อน คือ อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ดังนั้นอุณหภูมิ
จึงสูงตลอดทั้งปีโดยมี
อุณหภูมิเฉลี่ยสุงสุด 34.1 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย
19.9 องศาเซลเซียส คือในฤดูหนาว
จะไม่หนาวจัด ฤดูร้อนก็จะไม่ร้อนจัด เพราะอยู่ใกล้ทะเล
ได้รับอิทธิพลจากลมทะเล สามารถแบ่งออกเป็น
3
ฤดูกาล คือ
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยมีลมตะวันออก
และลมฝ่ายใต้พัดผ่าน
ทำให้ฤดูร้อนไม่ร้อนจัดมาก โดยอุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 35 – 37
องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง
25 – 27 องศาเซลเซียส
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม โดยมีลมมรสุมตะวันตก
เฉียงใต้
พัดผ่าน ทำให้มีฝนตก
ตลอดฤดูกาล มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,000 – 12,000 มิลลิเมตร
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออก
เฉียงเหนือพัดผ่าน อากาศ
จะเย็นและแห้ง อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 10 – 15 องศาเซลเซียส
และสูงสุดอยู่ระหว่าง 20 – 25 องศาเซลเซียส แต่ส่วนใหญ่ไม่หนาวมากเพราะอยู่ใกล้ทะเล
จึงได้
รับอิทธิพลจากลมทะเล ในฤดูหนาวจะมีฝนตกบ้างเป็นครั้งคราว
เนื่องจากเกิดแนวปะทะ
อากาศ
ระหว่างลมฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือกับลมฝ่ายตะวันตก
ชนิดป่าและพรรณไม้
1. สังคมป่าดิบแล้ง (Dry evergreen forest) เป็นสังคมป่าที่ขึ้นปกคลุมพื้นที่ขอบเขต
รักษา
พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนประมาณ 90% ของพื้นที่ทั้งหมด มีพรรณไม้ทั้งหมด 224 ชนิด
ชนิดที่มีค่า
ดัชนีความสำคัญสูงสุด 5 อันดับแรก คือ กร่าง (Ficus benghalensis) คอแลน
(Nephelium
melliferum) กระบก (Irvingia malayana) ตะแบกแดง (Lagerstraemia
calyculata) และ
มะพลับทอง (Diospyros transitoria) นับเป็นพื้นที่ป่าดิบแล้งผืนใหญ่ที่สุด
ของประเทศที่ขึ้นปรากฏ
อยู่บนพื้นที่ราบ
2. สังคมป่าผสมผลัดใบ (Mixed deciduous forest) สังคมพืชชนิดนี้มีลักษณะเรือนยอด
โปร่ง
ไม่รกทึบเหมือนป่าดิบแล้ง และในฤดูแล้งพรรณไม้ในป่าประเภทนี้มีการผลัดใบ มีพรรณไม้
ทั้งหมด
60 ชนิด ชนิดที่มีค่าดัชนีความสำคัญสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ตะแบกแดง
(Lagerstraemia calyculata)
กระบาก (Anisoptera costata) อะราง (Peltophorum
dasyrrhachis) ขนุนนก (Artocarpus
heterophyllus) และ ติ้วขน (Cratoxylum formosum) สังคมพืชลักษณะนี้มีการกระจายอยู่ตามสันเขาหินปูน หรือบริเวณที่มีดินตื้นซึ่งมีไฟป่าเกิดขึ้น
เป็นประจำ
3. สังคมป่าเต็งรัง (Deciduous dipterocarp forest) เป็นสังคมพืชที่มีพืชที่พบน้อย
ส่วนใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่ในพื้นที่ดินตื้น ทั้งนี้เนื่องจากมีชั้นดินลูกรัง ปรากฏอยู่ตื้นชิดกับหน้าดิน
มีพื้นที่ปกคลุมขึ้นแทรกเป็นหย่อมๆ อยู่ในป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรังเป็นป่าโปร่งที่มีไฟป่าเกิดขึ้นทุกปี
ในฤดูแล้ง แต่เนื่องจากพื้นที่ได้รับปริมาณน้ำฝนค่อนข้างสูงส่งผลให้ป่าเต็งรังแห่งนี้มีความชื้น
สูง
ทำให้ป่าเต็งรังผลัดใบช้ากว่าป่าเต็งรังที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ
4. สังคมทุ่งหญ้า และป่ารุ่นสอง (Grassland and Secondary forest) พบปกคลุมพื้นที่
บางส่วนบริเวณซับขนุน ซับวัวแดง และตามแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเคยมีการบุกรุกตั้งถิ่น
ฐาน
ของราษฎรซึ่งต่อมาทางราชการได้ดำเนินการอพยพราษฎรที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ออกจาก
พื้นที่
ทั้งหมด
ต่อมาสภาพพื้นที่เกษตรกรรม ในอดีตได้ถูกปล่อยให้รกร้างกลายสภาพเป็นทุ่ง
หญ้าคา
ในบริเวณ
ที่ลุ่มเป็นหญ้าพงโดยในสังคมพืชทุ่งหญ้านั้น มีพรรณไม้ทั้งหมด 10 ชนิด
ชนิดที่มีค่า
ดัชนีความ
สำคัญสูงสุด
5 อันดับแรก คือ อะราง (Peltophorum dasyrrhachis)
แคทราย
(Stereospermum
neuranthum )
เกด (Manilkara hexandra) ส้มกบ (Oxalis
corniculata )
และ โมกมัน
(Wrightia pubescens ) และในพื้นที่ใกล้ป่ามีพรรณไม้เบิกนาขึ้น
อยู่หลายชนิด
กลายเป็นสังคมพืช
ในขั้นของการทดแทนเกิดขึ้นหลายขั้นตอน มีทั้งสังคมพืช
ที่กำลังพัฒนา
ไปข้างหน้า และสังคมที่ย้อน
กลับอันเนื่องมาจากไฟป่าที่เผาไหม้อยู่เสมอ
ในช่วงหน้าแล้ง รวมทั้งลูกไม้ของพรรณไม้ดั้งเดิม
มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ขึ้นปกคลุม
อยู่ในสภาพของป่ารุ่นสอง
5. ป่าตามสันเขาหินปูน (Limestone forest) สังคมพืชชนิดนี้พบขึ้นกระจายอยู่เป็นแนว
ตามสันเขาหินปูนที่อยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่
ที่มีสันเขาทอดตัวเป็นแนวยาวต่อเนื่องไปยังเขต
พื้นที่
ของอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา - เขาวง ลักษณะสังคมพืชส่วนใหญ่ พบไม้พุ่มหรือไม้ยืน
ต้น
ที่แคระแกร็น
มีลำต้นคดโค้งไปตามหน้าผา ทั้งนี้เนื่องจากต้นไม้ในบางพื้นที่สามารถขึ้นได้
เฉพาะตามรอยแตกของ
ก้อนหินบนเทือกเขาหินปูนในพื้นที่
สัตว์ป่า
1. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่พบในพื้นที่ จำนวน 92 ชนิด ชนิดที่สำคัญ เช่น ช้างป่า
(Elephas
maximus) กระทิง (Bos gaurus) วัวแดง (B. javanicus) เลียงผา (Capricornis sumatraensis)
กวางป่า (Cervus unicolor) เก้งธรรมดา (Muntiacus vaginalis) กระจงหนู
(Tragulus kanchil)
หมูป่า (Sus scrofa) เสือลายเมฆ (Neofelis nebulosa) หมาใน
(Cuon alpinus) หมาจิ้งจอก
(Canis aureus) อีเห็นเครือ (Paguma larvata) ชะนีมงกุฎ
(Hylobates pileatus) เป็นต้น
2. นก พบทั้งสิ้น 308 ชนิด นกสำคัญที่พบ เช่น นกขุนแผนอกสีส้ม (Harpactes oreskios) นกแต้วแล้วธรรมดา (Pitta moluccensis) นกเงือกกรามช้าง (Rhyticeros
undulatus)
นกแก๊ก
(Anthracoceros albirostris) นกกก (Buceros bicornis) นกหัวขวานใหญ่สีเทา (Mulleripicus
pulverulentus) นกพญาปากกว้างอกสีเงิน (Serilophus lunatus)
นกขุนทอง
(Gracula religiosa) นกกระทาดงแข้งเขียว (Arborophila chloropus) นกกระสาขาว (Ciconia ciconia) นกตะกรุม
(Leptoptilos javanicus) ไก่ฟ้าพญาลอ (Lophura diardi) ไก่ฟ้าหลังขาว
(L. nycthemera)
ไก่ป่าตุ้มหูขาว (Gallus gallus) เป็นต้น
3. สัตว์เลื้อยคลาน พบจำนวน 55 ชนิด สัตว์เลื้อยคลานที่พบ เช่น ตะกวด (Varanus
bengalensis) เหี้ย (V. salvator) เต่าใบไม้ (Cyclemys dentata) ตะพาบธรรมดา (Amyda
cartilaginea) งูเหลือม (Malayopython reticulatus) งูเห่า (Naja kaouthia) งูจงอาง
(Ophiophagus hannah) งูแมวเซา (Daboia siamensis) จระเข้น้ำจืด (Crocodylus
siamensis) เป็นต้น
4. สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก พบจำนวน 18 ชนิด สัตว์ที่พบ เช่น กบหนอง (Fejervarya
limnocharis) อึ่งอ่างบ้าน (Kaloula pulchra) เขียดตะปาด (Polypedates leucomystax)
อึ่งกรายลายเลอะ (Leptobrachium smithi) เป็นต้น
5. ปลา พบจำนวน 23 ชนิด ในแหล่งน้ำทั่วไป เช่น ปลาช่อน (Channa striata)
ปลาบู่ทอง (Oxyeleotris marmorata) ปลาเลียหิน (Garra cambodgiensis) ปลาแขยงหิน
(Leiocassis siamensis) ปลากระทิงลาย (Mastacembelus armatus) ปลากระทิงดำ
(M. favus) เป็นต้น
งานวิจัยที่ผ่านมา
1. การศึกษารังและการเลือกที่ทำรังของนกขุนทองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
2. อิทธิพลของนกขุนทองต่อการงอกของเมล็ดพืชอาหารสัตว์ป่า
3. การเพาะเลี้ยงนกขุนทองเพื่อทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
4. อิทธิพลของนกขุนทองต่อการงอกของเมล็ดหว้า (Syzygium sp.)
5. ชีววิทยาการสืบพันธุ์ของนกกระจิบหญ้าสีเรียบ
6. ความสำเร็จในการสร้างรังวางไข่ของนกบางชนิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
7. ประชากรและความหลากหลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่อาศัยหากินอยู่
ตาม
พื้นดิน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
8. อิทธิพลของถนนที่ตัดผ่านป่า ต่อการสูญเสียสัตว์มีกระดูกสันหลังในพื้นที่เขตรักษา
พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
9. ดัชนีความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักและความยาวปากของนกบางชนิดที่พบบริเวณ
สถานี
วิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา
10. นิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์ของจระเข้น้ำจืด ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
11. อาหารของสัตว์ตระกูลแแมวป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
12. โครงสร้างของประชากรช้างป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
13. ประชากรและการกระจายพันธุ์ของชะนีมงกุฎในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
14. ชีพลักษณ์ของพืชบางชนิดที่เป็นอาหารของสัตว์ป่า
15. การติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรช้างป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
16. ความขัดแย้งระหว่างคนและช้างป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
17. ทำไมกระทิงจึงออกนอกพื้นที่เขาอ่างฤาไน ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
18. สัตว์มีกระดูกสันหลังที่ถูกรถชนตาย บนถนนสาย 3259 ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์
สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
19. การประเมินจากการทดลองปิดถนนสาย 3259 ช่วงผ่านเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขาอ่างฤาไน
20. การสำรวจและประเมินสถานภาพของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่: กรณีศึกษาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน
21. การใช้ประโยชน์บ่อน้ำของช้างป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์เขาอ่างฤาไน
จังหวัดฉะเชิงเทรา
22. ทำไมช้างป่าจึงออกหากินนอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน
จุดที่น่าสนใจ
1. น้ำตกบ่อทอง หรือน้ำตกอ่างฤาไน อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าบ่อทอง
จังหวัดฉะเชิงเทรา
2. น้ำตกเขาตะกรุบ อยู่ทางทิศเหนือของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
จังหวัดสระแก้ว
3. น้ำตกอ่างผักหนาม อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าเขาใหญ่ จังหวัดชลบุรี
หมายเหตุ อยู่ในพื้นที่ความดูแลของสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
การเดินทาง
การเดินทางโดยรถยนต์ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 จากกรุงเทพฯ –
ฉะเชิงเทรา
-
พนมสารคาม – สนามชัยเขต – ท่าตะเกียบ - บ้านหนองคอก ถึงสถานีวิจัย
สัตว์ป่าฉะเชิงเทรา
ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร การเดินทางจากสถานีขนส่งจังหวัด
ฉะเชิงเทรา สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสาย
ฉะเชิงเทรา
– คลองหาด
- วังน้ำเย็น
สถานที่ติดต่อ
สถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา บ้านเลขที่ 600 หมู่ที่ 25 ตำบลคลองตะเกรา
อำเภอท่าตะเกียบ
จังหวัดฉะเชิงเทรา 24160
ติดต่อทางไปรษณีย์
สถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา ตู้ ปณ. 2 ปทจ. สนามชัยเขต อำเภอ
สนามชัยเขต
จังหวัดฉะเชิงเทรา 24160
|